วิธีช่วยเพิ่มความเร็วของเว็บไซต์

วิธีช่วยเพิ่มความเร็วของเว็บไซต์

หากคุณเปิดเว็บไซต์จำหน่ายสินค้าเกรดเอที่ใคร ๆ ก็เรียกร้องต้องการ โพสต์บทความคุณภาพมีประโยชน์และน่าอ่าน เลือกคีย์เวิร์ดเหมาะสมรองรับการทำ SEO เพื่อให้เว็บไซต์คุณมีโอกาสติดหน้าแรกแล้ว แต่มาตกม้าตายตอนจบ เพราะเว็บโหลดช้าทำความลำบากและรำคาญให้ลูกค้า ซึ่งเปลี่ยนใจไปค้นหาสิ่งที่ต้องการในเว็บคู่แข่งแทน โจทย์นี้แก้ไขอย่างไร เรามีคำตอบให้คุณ

เพราะธุรกิจออนไลน์มีการแข่งขันสูง ถ้ามีจุดอ่อนทางใดทางหนึ่ง คู่แข่งที่เปิดเว็บค้นหาแบบเดียวกันก็ช่วงชิงแบ่งส่วนแบ่งตลาดไปรวดเร็ว หากเว็บโหลดช้าเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อการจัดอันดับใน Google ด้วย หากไม่ปรับปรุง เว็บจะถูกร่นอันดับตกลงไปหลายหน้า ทุกคนใช้งานเสิร์จเอนจินต้องการความเร็ว ถ้าเว็บช้าเป็นเต่า การทำ SEO ที่ดีแทบจะไม่มีประโยชน์เลย เจ้าของเว็บไซต์ควรท่องเว็บของตนเองและพิจารณาในมุมมองของผู้บริโภคคำนึงถึงพฤติกรรมการใช้งานค้นหาสินค้าและตรวจสอบความเร็ว ถ้าคลิกแล้ว ต้องรอแล้วรออีก ใช้เวลาโหลดนานหลายวินาทีจะมีผลต่อความนิยมของลูกค้าซึ่งมีแนวโน้มผละไปหาคู่แข่งเอาง่าย ๆ โชคดีที่มีหลายวิธีช่วยเพิ่มความเร็วของ เว็บไซต์ ได้ดังนี้

วิธีช่วยเพิ่มความเร็วของเว็บไซต์

1.ตรวจสอบความเร็วปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องใช้นาฬิกาจับเวลา มีเครื่องมือออนไลน์มากมายสำหรับตรวจสอบความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ เช่น Pingdom ช่วยตรวจสอบเวลาในการโหลดและขนาดหน้าเว็บรวมทั้งความเร็วของเว็บไซต์เปรียบเทียบกับเว็บไซต์อื่น หากเว็บไซต์ของคุณใช้เวลาโหลดนานกว่า 4 วินาทีหรือนานกว่านั้น ถือว่าการโหลดมีปัญหา หมั่นตรวจสอบความเร็วของหน้าเว็บเพื่อให้อยู่ในอันดับที่ดีของ Google อยู่เสมอ

2.ย่อไฟล์ขนาดใหญ่ รูปภาพขนาดเต็มและเนื้อหาอื่น ๆ ที่รวมเป็นไฟล์เดียวกันอาจทำให้เว็บไซต์ของคุณช้าลง ภาพจากกล้องในมือถืออาจมีหลายเมกะไบต์กลายเป็นตัวถ่วง ควรใช้ Photoshop ลดขนาดและปรับแต่งภาพให้มีพื้นที่เล็กลง ทำให้เว็บไซต์ของคุณโหลดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพภาพก่อนอัปโหลดลงในเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดีย

3.ใช้เครือข่ายการจัดส่งเนื้อหา Content Delivery Network หรือ CDN ทำงานโดยการจำลองเว็บไซต์ทั้งหมดบนเซิร์ฟเวอร์ที่กระจายอยู่ทั่วโลก ทำให้ผู้ชมที่อยู่ใกล้ที่สุดดาวน์โหลดได้เร็วขึ้น วิธีนี้ช่วยให้สามารถโหลดได้เร็วสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง

4.อัปเกรดเว็บโฮสติ้ง ธุรกิจมือใหม่มักจะเลือกเว็บโฮสติ้งฟรีหรือเสียค่าใช้จ่ายน้อย แต่ถ้าคุณต้องการศักยภาพการแข่งขันสูงสุด ต้องเลือกเว็บโฮสติ้งที่ดี การที่ไม่ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ร่วมกับคนอื่น ทำให้โหลดเร็วขึ้น ทั้งยังป้องกันความเสี่ยงที่เว็บอื่นล่มแล้วฉุดเว็บของคุณดับไปด้วย มีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกนิดแต่คุ้มค่า

5.อย่าอัปโหลดวิดีโอไปยังเว็บไซต์ตัวเอง เพราะไฟล์ใหญ่เกินไป ทำให้หน้าเว็บโหลดช้า ควรอัปโหลดวิดีโอไปยังบริการของบุคคลที่สาม เช่น YouTube หรือ Vimeo แล้วเชื่อมโยงกลับไปหาเว็บไซต์ของตนเอง จะไม่ได้รับผลกระทบจากการโหลดหน้าเว็บ สามารถใช้วิดีโอดึงดูดผู้ชมจำนวนมากที่ต้องการดูคลิปแบบประหยัดเวลามากกว่าจะอ่านบทความ

เพียงเท่านี้ก็หมดอุปสรรค ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายไม่ต้องทนรอโหลดนานหลายวินาที ทำให้เว็บไซต์คุณมีโอกาสติดหน้าแรกของ Search Engine และมีโอกาสปิดยอดขายง่ายขึ้นด้วย

เว็บไซต์โหลดเร็ว เคล็ดลับทำ SEO ติดอันดับหน้าแรก

เทคนิคการเขียนบทความ ทำ seo

เทคนิคการเขียนบทความ ทำ seo

ธุรกิจออนไลน์กำลังสนใจวิธีทำ SEO เพื่อโปรโมทเว็บไซต์ เพราะเล็งเห็นประโยชน์ตรงที่ไม่ต้องลงทุนมาก ไม่ต้องจ่ายแพงในด้านค่าโฆษณา เพียงการใส่บทความที่มีคุณภาพพร้อมกับคีย์เวิร์ดเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างการค้นหาของลูกค้าเข้ากับ คีย์เวิร์ด ในบทความ เป็นวิธีง่าย ๆ ที่สามารถดึงดูดคนเข้าชมเว็บจำนวนมากขึ้น เปิดโอกาสให้เข้ามาทำความรู้จักสินค้า บริการ ทั้งยังช่วยทำให้แบรนด์ของเราติดหูติดตา กระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อในท้ายที่สุด แต่ใช่ว่าจะจับบทความอะไรก็ได้ใส่เข้ามาในเว็บไซต์ ผู้ค้นหาจะชอบอ่านเรื่องราวที่เกี่ยวกับสินค้า วิธีการใช้งาน ประโยชน์ที่ได้รับ หรือแม้แต่เคล็ดลับความประหยัด ล้วนเป็นข้อมูลที่นำมาใช้ในเนื้อหาบทความได้อย่างดี มีการสร้างแรงจูงใจที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อมากขึ้น

เทคนิคเขียนบทความ

เทคนิคเขียนบทความทำ SEO เพื่อโน้มน้าวในผู้อ่านจะต้องกำหนดจุดประสงค์ของเรื่องก่อน เมื่อเราต้องการแสดงจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าเห็นข้อดีที่ควรจะซื้อ ต้องเริ่มถ่ายทอดคุณสมบัติและประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ ทำให้ง่ายที่จะเรียบเรียงเรื่องราวออกมาในแนวการใช้งานจริง จะทำให้ลูกค้าได้รับประโยชน์อะไรจากสินค้าของเราบ้าง เน้นเนื้อหาที่ให้ประโยชน์กับลูกค้าเป็นสำคัญ ไม่เน้นการโฆษณาขายของมากเกินไปจนทำให้รู้สึกอึดอัด ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่ามีสิทธิ์เลือกสิ่งดีที่สุดให้กับตัวเอง งานเขียนที่ดีต้องอ่านง่าย เว้นวรรคและย่อหน้าอย่างเหมาะสมเพื่อให้อ่านง่ายขึ้น ควบคุมเนื้อหาไม่ยาวเกินไป มีความยาวประมาณ 500-1,000 คำถือว่ากำลังดี อ่านทบทวนและเรียบเรียงเนื้อหาให้เชื่อมโยงกัน อ่านลื่นไหลไม่สะดุดและติดขัด คำฟุ่มเฟือยและคำซ้ำซากทำให้อ่านติดขัดและน่าเบื่อ ตรวจสอบและตัดถ้อยคำที่เยิ่นเย้อออกไป การสะกดคำถูกต้องเป็นอีกส่วนสำคัญที่จะเกิดผลดีและส่งเสริมภาพลักษณ์ของเว็บไซต์ทำให้บทความมีความน่าเชื่อถือ

การเขียนบทความเป็นเทคนิคเฉพาะตัว นักเขียนมืออาชีพจะเรียบเรียงเนื้อหาให้น่าอ่านและน่าสนใจมากกว่า ทำให้มีคนเปิดอ่านเนื้อหาเรื่องราวในเว็บไซต์มากขึ้น แต่ถ้าจำเป็นต้องประหยัดงบประมาณที่มีอยู่จำกัด ลองอ่านบทความดีๆ แล้วนำมาปรับใช้ให้เหมาะกับเรื่องราวของตัวเอง ด้วยสูตร “ใคร ทำอะไร ที่ไหน” ซึ่งใช้ในการเขียนทั่วไป เรานำมาอธิบายว่า สินค้าคืออะไร มีคุณสมบัติและประโยชน์อย่างไรบ้าง ข้อดีที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ทำไมต้องเลือกซื้อของเรา ราคาเท่าไร ซื้อได้ที่ไหน ติดต่อช่องทางไหนได้บ้าง ประกอบกับการรีวิวสินค้าเข้ามาช่วยในการอธิบายเพื่อสร้างจินตนาการให้กับผู้อ่าน ทำให้น่าสนใจและเข้าใจเรื่องราวง่ายขึ้น ขณะเดียวกันสามารถเชื่อมโยงบทความเข้ากับโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม เป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าเพื่อส่งข้อมูลสู่ผู้บริโภคอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนมากนัก ทั้งยังเป็นการเพิ่มช่องทางการสื่อสารกับลูกค้าได้สะดวกขึ้นด้วย ลองนำไปพิจารณาดูว่าจะใช้ประโยชน์กับบทความของคุณได้อย่างไรบ้าง เพื่อให้สื่อสารข้อมูลถึงผู้อ่านได้ครบถ้วนและตรงประเด็นที่สุด

เทคนิคการทำ seo

การทำ Anchor Text คีย์เดียวกันทุกหน้าเว็บ ไม่ใช่เรื่องดี

การทำ Anchor Text คีย์เดียวกันทุกหน้าเว็บ ไม่ใช่เรื่องดี

เคยเห็นกันไหมว่าในบางเว็บไซต์ผลการค้นหามักจะถูกจัดเอาหน้าเว็บเพจอื่นภายในเว็บไซต์ของเรามาทำอันดับแทนหน้าเป้าหมายที่เราต้องการให้ติดอันดับ เป็นเพราะว่า Google ได้มองเห็นความซ้ำซ้อนในเว็บไซต์ของเราแล้วพยายามจัดหน้าเว็บเพจที่เหมาะสมที่สุดในคีย์เวิร์ดนั้นของเว็บเรา นำมาแสดงในหน้าผลการค้นหาผ่านคีย์เวิร์ดเป้าหมายของเรานั่นเอง ยกตัวอย่างเช่นพวกเว็บแทงบอลต่างๆมักจะมีหน้าทางเข้าขึ้นมาติดแทนหน้าเว็บหลักอยู่เสมอ หรือต่อให้เราค้นหาทางเข้า บางทีก็จะโผล่หน้าหลักมาแทนเป็นแบบนี้หลายเว็บเลยทีเดียว

เมื่อเราได้ลองมีการสังเกตุดูเป็นระยะ สาเหตุก็อย่างที่บอกไปข้างต้นก็คือ Google พยามจัดอันดับเว็บในหน้าที่เกี่ยวข้องมากที่สุดมาแสดง และบางคนได้มีการใช้ Anchor Text หรือเราจะเรียกกันว่าการทำลิงค์เป็น Keyword เข้าไปยังหน้าเว็บเพจของเราในคำค้นหาเดียวกัน เพื่อให้ภาพรวมของเว็บไซต์นั้นบอกเสิร์ชเอนจิ้นว่าเว็บไซต์ของเราเกี่ยวกับเรื่องอะไรเป็นหลัก การทำแบบนั้นถือว่าไม่ใช่เรื่องดีนักเพราะอันกอริทึม Google จะให้คะแนนหน้าเว็บไซต์โดยดูแต่ละเว็บเพจเป็นหลักไม่ใช่โดยรวมเป็นหลัก

หนึ่งเว็บไซต์ สามารถทำได้หลาย 1,000 หลาย 10,000 คีย์เวิร์ด เพียงแค่สร้างเว็บเพจมีความแตกต่างกัน มีเนื้อหาที่เฉพาะเจาะจงของแต่ละหน้าเป้าหมายที่แตกต่างกัน แต่ในทางกลับกันหากเราคาดหวังว่าเราทำเว็บแทงบอลขึ้นมาและต้องการให้ทั้งเว็บของเราเกี่ยวกับแทงบอล เราก็เลยยิงลิ้งค์ข่าวว่าแทงบอลเข้าไปยังทุกหน้าเว็บเพจของเราแบบนั้น Google จะมองว่าเป็นความซ้ำซ้อนและหน้าเว็บของเราอาจจะไม่ได้ถูกจัดอันดับดังที่เป้าหมายต้องการได้ การอ่านแบบนี้ไม่ถูกต้อง ควรใส่ใจ Anchor Text ในแต่ละเว็บเพจอย่างเจาะจงและต่างกัน ไม่ใช่เหมารวมทั้งเว็บ ถ้าจะทำโดยรวมก็ควรใช้คีย์เวิร์ดใกล้เคียงแทนคีย์เวิร์ดเดียวกัน