8 สิ่งที่คุณจะพลาดหากไม่ทำเว็บไซต์ระบบ SEO

8 สิ่งที่คุณจะพลาดหากไม่ทำเว็บไซต์ระบบ SEO

การทำธุรกิจออนไลน์ในปัจจุบัน นิยมทำเว็บไซต์ให้เข้าสู่ระบบ SEO กันมากขึ้น เพื่อกระตุ้นยอดขายและเสริมภาพลักษณ์ที่ดีทางธุรกิจในระยะยาว แต่ก็ยังมีนักธุรกิจออนไลน์บางท่านยังไม่มั่นใจในการทำ SEO เราจึงได้รวบรวม 8 สิ่งที่คุณจะพลาดหากไม่ปรับเว็บไซต์ให้เข้าสู่ระบบ SEO มาฝากกัน

1. พลาดการเพิ่ม traffic ในการเข้าชมเว็บไซต์ เพราะเว็บไซต์ของคุณจะไม่ได้ถูกนำเสนอในอันดับต้น ๆ ของการสืบค้นทาง search engine และแน่นอนว่าโอกาสในการขายสินค้าจะน้อยลงเรื่อย ๆ หากเว็บไซต์คุณตกไปอยู่ในหน้าท้าย ๆ ของคีย์เวิร์ดที่สืบค้น

2. พลาดการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เพราะไม่มีการปรับคีย์เวิร์ดให้ตรงใจผู้บริโภคสินค้าของคุณ จึงแทบไม่มีโอกาสในการพบหรือ matching กันทางออนไลน์เลย

3. พลาดความประทับใจ เพราะเว็บไซต์ในระบบเก่า ๆ จะเน้นที่ปริมาณแบนเนอร์ หรือการแนบลิ้งค์โฆษณา ซึ่งเป็นปัญหาทำให้ผู้บริโภคเกิดความรำคาญและรบกวนต่อระบบการสืบค้น หากเว็บไซต์คุณยังเป็นเช่นนี้ ก็เรียกได้ว่าล้าสมัยและย่อมไม่เป็นที่ประทับใจของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายแน่

4. พลาดความน่าเชื่อถือ เพราะการที่ไม่มี SEO รองรับในระบบทั้งส่วนเนื้อหาและโครงสร้างของเว็บไซต์ จะทำให้การจัดอันดับหล่นไปรั้งท้าย และทำให้เสียความน่าเชื่อถือไป โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจที่มีการแข่งขันกันสูง คุณย่อมเสียลูกค้าให้บริษัทที่ได้อันดับ 1-10 ของการสืบค้นอย่างแน่นอน

คุณจะพลาดหากไม่ทำเว็บไซต์ระบบ SEO

5. พลาดการโปรโมตแบบ 24 ชั่วโมง เพราะจะไม่ถูกนำเสนอในผลการสืบค้นหน้าแรก ๆ คุณจะเสียตำแหน่งการนำเสนอนี้ไปให้แก่เว็บไซต์ที่มีระบบ SEO รองรับ และย่อมสัมพันธ์กับรายได้ที่จะลดลงไปด้วย

6. พลาดการประหยัดเงินในกระเป๋าสตางค์ คุณอาจไม่รู้ว่าการทำ SEO กับบริษัทที่มีคุณภาพ จะทำให้สัญญาราย 6 เดือนหรือราย 1 ปีมีความประหยัดสุดคุ้ม เมื่อเทียบกับการซื้อโฆษณาหรือการจ้างโปรโมตชนิดอื่น ๆ

7. พลาดการพัฒนาเว็บไซต์ ทำให้ธุรกิจคุณจะค่อนข้างล้าหลัง หรือเดินตามแบรนด์อื่นในหมวดหมู่สินค้าและบริการอย่างเดียวกัน ทำให้ต้องเสียโอกาสในการขายทั้งวันนี้และวันหน้า และทำให้ต้องเสียเวลาและค่าจ้างครั้งใหญ่ในอนาคตเพื่อการยกเครื่องเว็บไซต์

8. พลาดโอกาสโกอินเตอร์ เพราะการที่ไม่ทำระบบ SEO จะทำให้เกิดความผิดพลาดในการตั้งโค้ดหรือการเชื่อมโยงกับลิ้งค์ต่าง ๆ โดยเฉพาะ ERROR ด้านตัวอักษรหรือภาษาที่ใช้ เท่ากับคุณจะเสียลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่อยู่ทั่วโลกเลยทีเดียว

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 8 สิ่งที่คุณจะต้องพลาดไปหากไม่ทำเว็บไซต์ให้เข้าสู่ระบบ SEO หวังว่าจะทำให้นักธุรกิจหลายท่านได้ตระหนักในการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อให้สามารถยืดหยัดในธุรกิจออนไลน์ได้อย่างสวยงามตลอดไป

พลาดหากไม่ทำเว็บไซต์ระบบ SEO

งานแนว SEO ทำได้ไม่ยาก แค่รู้หลัก

งานแนว SEO ทำได้ไม่ยาก แค่รู้หลัก

ปัจจุบันช่องทางอาชีพใหม่ที่เกิดขึ้นตามมากับการขายของออนไลน์ คือการทำเว็บไซต์และการเขียนบทความแบบ SEO ซึ่งหากเป็นผู้ที่มีพื้นฐานความสนใจด้านการออกแบบเว็บไซต์หรืองานเขียนอยู่แล้ว คงไม่ใช่เรื่องยากเกินไป

เราจึงได้รวบรวมหลักการอย่างง่ายที่ทำให้ผู้ที่สนใจทำงานที่เกี่ยวกับ SEO เป็นอาชีพเสริม สามารถต่อยอดได้ไม่ยาก

1. หน้าตาเว็บไซต์ต้องผ่านเกณฑ์

สำหรับผู้รับจ้างทำเว็บไซต์ Search engine ที่คนนิยมใช้ทั่วโลกอย่างกูเกิ้ลได้มีข้อกำหนดมาตรฐานของ “หน้าร้านออนไลน์” เปรียบได้กับมาตรฐานผู้ประกวดนางงาม นั่นคือ ทั้งการตั้งชื่อ URL ในการสืบค้น การตั้งชื่อหัวข้อ (Title) และส่วนเนื้อหารวมสรุป (Description) ต้องมีความเหมาะสม

2. ความเป็นเอกลักษณ์ในเนื้อหา

การเป็นนักเขียนแนว SEO จำเป็นต้องมีความ unique ในเนื้อหา เปรียบได้กับคุณสมบัติเฉพาะของผู้เข้าประกวดนางงามแต่ละคน หากจะทำโบท็อกซ์หรือศัลยกรรมมา ก็ต้องมีความแนบเนียนสวยงาม และมีเอกลักษณ์ที่ไม่ใช่ว่าเกิดการทำเป็นหน้าบล็อกเดียวกันหมด ซึ่งในทางการเขียนบทความเรียกว่า plagiarism ซึ่งสามารถถูกเช็คได้ง่าย ๆ ก่อนในเบื้องต้น และถูกตรวจจับอย่างแน่นอนในบอทของ search engine ซึ่งจะส่งผลต่อการ degrade อันดับของเว็บไซต์คุณด้วย

3. เลือกคีย์เวิร์ดที่ใช่

การทำคอนเทนต์ นอกจากต้องมีความเป็นอัตลักษณ์ในเนื้อหาแล้ว ยังต้องแทรกคีย์เวิร์ดที่ ‘ใช่’ ในการสื่อสารตรงถึงกลุ่มเป้าหมาย เช่น บทความเรื่องนางงาม ก็ควรมีคีย์ “นางงาม” “ประกวด” “รางวัล” เป็นต้น

4. การมีลิ้งค์พันธมิตร

การมี link เชื่อมโยงกับเว็บไซต์อื่น ๆ เพื่อส่งเสริมการขาย หรือที่เรียกกันทับศัพท์มานานว่า Backlink เป็นส่วนหนึ่งของการทำ SEO แต่ไม่ใช่การเน้นปริมาณอย่างในอดีตอีกต่อไป เนื่องจากผู้บริโภคหรือกลุ่มเป้าหมายยุค millennial ต้องการความจริงใจ มีเนื้อหาสาระที่ทำให้รู้สึกว่าไม่เสียเวลา ได้ประโยชน์ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการเลือกซื้อสินค้าและบริการ รวมถึงการ “แชร์ต่อ” ด้วย

ทำงานที่เกี่ยวกับ SEO

5. ตำแหน่งของคีย์

การใส่คีย์ที่เหมาะสมลงในเนื้อหา content เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญในการทำ SEO เนื่องจากการแสดงผลจะใช้ย่อหน้าแรกเป็นหลัก และหากใช้โปรแกรมสำเร็จที่ชื่อ “WORDPRESS” ก็จำเป็นอย่างมากในการโชว์เนื้อหาคีย์ในส่วนแรกนี้

6. ความยาวเนื้อหา

ควรวิเคราะห์ว่ากลุ่มเป้าหมายของธุรกิจ เป็นผู้อ่านกลุ่มใด ใช้ไลฟ์สไตล์แบบไหนเป็นสิ่งสำคัญ การให้เวลากับการอ่านแต่ละบทความ โดยทั่วไปแล้วคนส่วนใหญ่ใช้เวลา 3 – 5 นาทีต่อหน้าเว็บไซต์หนึ่ง ๆ เพื่อกวาดสายตาและประมวลความคิดในสิ่งที่สนใจ การมีเนื้อหายาวเวิ่นเว้อ นอกจากจะทำให้ผู้อ่านไม่สบอารมณ์แล้ว ยังจะเป็นการเสียลูกค้าไปอย่างถาวรได้ (คือ ไม่คลิกเข้ามาอีกแล้ว) ทั้งนี้หากบทความเป็นเกรดพรีเมี่ยม เช่น เชิงลึก เชิงวิชาการเฉพาะ พบว่าความยาวเฉลี่ยที่ประมาณ 1900 คำ เป็นความยาวที่ช่วยให้อันดับจากการทำ SEO สูงขึ้นมาก

เป็นอย่างไรบ้าง กับหลักพื้นฐาน 6 ข้อ ที่เรานำมาเสนอ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการทำอาชีพที่เกี่ยวข้องกับ SEO ไม่ว่าจะเป็นการเขียนเว็บไซต์ การเขียน content SEO ซึ่งยังมีแนวโน้มไปได้ยาวไกลในสายงานธุรกิจออนไลน์