เทคนิคพื้นฐานในการทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จ

เทรนด์การตลาดออนไลน์ที่มาแรงที่สุดในยุคนี้ต้องยกให้กับการทำ SEO จึงทำให้หลายองค์กรและหลายธุรกิจหันมาให้ความสำคัญกับการทำ SEO มากขึ้น โดย SEO นั้น หากอธิบายง่าย ๆ คือ การทำให้เว็บไซต์ติดอันดับต้น ๆ ใน Search Engine เช่น Google, Youtube และ Yahoo เป็นต้น เพราะการติดหน้าแรกของ Search Engine นอกจากจะทำให้ดูน่าเชื่อถือแล้ว ยังทำให้กลุ่มเป้าหมายเห็นธุรกิจและบริการของคุณได้ง่ายขึ้นอีกด้วย และเมื่อการทำ SEO มีข้อดีแบบนี้ ลองมาดูกันว่าจะมีพื้นฐานอย่างไรในการทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จ

เนื้อหาต้องโดนใจ
Content is King คำนี้ยังใช้ได้เสมอ โดยเฉพาะยุคที่ใคร ๆ ต่างหันมาบริโภคคอนเทนต์ออนไลน์ ซึ่งเทคนิคง่าย ๆ ในการทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จนั้น ต้องเริ่มต้นโดยการผลิตคอนเทนต์ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย และควรเป็นคอนเทนต์ที่ให้ประโยชน์แก่ผู้อ่าน ที่สำคัญควรอัปเดตสม่ำเสมอเพื่อให้มีเนื้อหาใหม่ ๆ ตลอดเวลา

คีย์เวิร์ดต้องใช่
นอกจากคอนเทนต์สดใหม่และน่าสนใจแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการวิเคราะห์คีย์เวิร์ดที่กลุ่มเป้าหมายนิยมค้นหา เช่น หากเป็นเว็บไซต์ขายเครื่องสำอางเกาหลี กลุ่มเป้าหมายนิยมค้นหาคำว่า “เครื่องสำอางเกาหลี” โดยคีย์เวิร์ดเหล่านี้ควรนำมาใช้ประกอบการเขียนคอนเทนต์ ซึ่งหากเลือกใช้คีย์เวิร์ดตอบโจทย์ตรงประเด็น ย่อมเพิ่มโอกาสเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น

ความรวดเร็วในการโหลดเข้าเว็บไซต์
เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยมีประสบการณ์ใช้งานเว็บไซต์ที่พอคลิกเข้าไปทีไรกลับต้องรอนาน จนหลายครั้งตัดสินใจคลิกปิดเว็บไซต์และไปใช้งานเว็บไซต์อื่น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง เพราะเสียโอกาสเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ ดังนั้น อย่าลืมใช้ Page Speed Insights หรือเครื่องมือทดสอบความเร็วเว็บไซต์ก่อนเสมอ

เว็บไซต์น่าเชื่อถือ
ความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ประกอบด้วยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโปรโตคอลความปลอดภัยแบบ https:// และการมีคนคลิกเข้าชมจำนวนมาก การมีผู้ใช้งานครั้งละนาน ๆ รวมถึงการถูกนำ URL ไปอ้างอิงในเว็บไซต์อื่น ๆ และมีผู้ใช้งานใหม่ ๆ คลิกเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ Search Engine มองว่าเว็บไซต์คุณน่าเชื่อถือ เพราะมีผู้ติดตามจำนวนมากอย่างสม่ำเสมอ

Mobile Friendly
เนื่องด้วยในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่มักเยี่ยมชมเว็บไซต์ผ่านสมาร์ทโฟนกันทั้งนั้น การออกแบบเว็บไซต์ให้เป็นมิตรกับการแสดงผลบนสมาร์ทโฟนย่อมมีส่วนช่วยเพิ่มคะแนนเว็บไซต์ เพราะฉะนั้นจึงควรออกแบบให้ขนาดตัวหนังสือกำลังดี อ่านแล้วสบายตา นอกจากนี้รูปภาพต้องสวย ไฟล์มีขนาดเล็กเพื่อให้โหลดเร็ว ขนาดภาพไม่ใหญ่จนเกินขนาดหน้าจอหรือเล็กจนมองไม่ชัด

สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจและสนใจปั้นเว็บไซต์ให้ติดอันดับด้วย SEO อย่าลืมคำนึงถึงเทคนิคพื้นฐานเหล่านี้ที่รับรองว่าจะช่วยผลักดันสินค้าและบริการของคุณให้เป็นที่รู้จักและสามารถติดอันดับต้น ๆ ของ Search Engine ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มโอกาสให้ธุรกิจประสบความสำเร็จอีกด้วย

ส่วนประกอบของ KPI ที่คนส่วนใหญ่นำมาประเมินในการทำ SEO

การทำ SEO ก็เป็นการทำงานอย่างหนึ่งที่จำเป็นต้องมีการวัดผลเพื่อทราบว่าการลงมือทำงานไปนั้นได้ประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน โดยแต่ละคนก็จะมีการวัดประสิทธิภาพการทำงานของ SEO ที่แตกต่างกันไป โดยวันนี้เรามี KPI ที่คนส่วนใหญ่ใช้ในการวัดผล SEO มาให้คุณลองนำไปประยุกต์ใช้กับการทำ SEO ของคุณแล้ว ว่าแต่จะมีอะไรบ้างเรามาดูกันเลยดีกว่า

KPI วัดผลอะไรได้บ้าง

จำนวนคลิกเข้าไปในเว็บไซต์บน search engine – ยิ่งมีคนคลิกเข้าไปในเว็บไซต์ของคุณด้วยวิธี organic หรือเป็นวิธีที่ไม่ได้ใช้เงินจ่ายค่าโฆษณามากเท่าไหร่ ก็หมายความว่าการทำ SEO ของคุณได้ผล และที่มากกว่านั้นคือบทความหรือ meta data ที่คุณใส่ลงไปมีสิ่งที่ดึงดูดคนให้กดไปสู่เว็บไซต์อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวล่ะ

การไต่ขึ้นอันดับไปบนหน้าแรกของ search engine – KPI ที่คนทำ SEO ต้องเจอและหนักใจมากที่สุดก็คือการไต่อันดับขึ้นไปหน้าแรกของ search engine นั่นเอง ซึ่งเป็น KPI หัวใจหลักของ SEO อยู่แล้ว โดย KPI ตัวนี้อาจใช้เวลานานในการวัดผล เพราะการขึ้นอันดับไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นเดียวกัน

คะแนนคุณภาพของโดเมนหรือ domain authority – โดเมนถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากอย่างหนึ่งในการทำ SEO เพราะหากโดเมนของคุณมีคุณภาพและมีคะแนนที่ดี ก็ยิ่งทำให้เว็บไซต์ไต่ขึ้นอันดับได้ง่าย โดยการเช็คคะแนนนั้นสามารถเช็คได้หลายเว็บไซต์ เช่น https://linklifting.com/ ที่สามารถตรวจสอบคุณภาพของโดเมนไปพร้อม ๆ กับ keyword ที่คุณต้องการ

คะแนนคุณภาพของ external link หรือ backlink SEO metric – การทำ off-page SEO นั้นมี external link หรือ backlink เป็นส่วนประกอบ หากคุณมีการทำ backlink อยู่ ก็ควรเช็คคะแนนที่ search engine ให้แก่เว็บไซต์ของคุณด้วย โดยเว็บไซต์ที่ใช้ในการเช็คคะแนน backlink นั้นมีหลายเว็บไซต์เลยทีเดียว เช่น https://www.semrush.com/

คะแนนคุณภาพของ internal link SEO metric – การตรวจคุณภาพของ internal link นั้น มีวิธีการทำเช่นเดียวกับการเช็คคะแนน backlink ซึ่งแตกต่างกันแค่ตรงที่การเช็คคะแนน internal link เป็นการให้คะแนน link ที่อยู่ภายในเว็บไซต์ของคุณเอง โดยมีเว็บไซต์ที่ใช้ในการตรวจสอบหลายตัว เช่น https://ahrefs.com/ ที่เป็นที่ชื่นชอบและนิยมใช้ในหมู่คนทำ SEO

conversion ที่ได้ – แน่นอนว่าการทำ SEO นั้นจะทำให้คนมองเห็นเว็บไซต์หรือหน้าบน platform ที่คุณต้องการให้เห็น ฉะนั้นการหลายคนจึงนำ conversion เช่น ยอดขาย, ยอดคลิก, ยอดวิว, ยอดแชร์ มาเป็น KPI ในการทำ SEO

เห็นไหมว่าการทำ SEO นั้นก็จำเป็นต้องมี KPI เพื่อนำมาใช้ในการวัดผลเช่นเดียวกัน ซึ่งการนำ KPI แต่ละตัวมาใช้นั้น ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการทำ SEO ของแต่ละคน โดยไม่สามารถใช้เหมือนกันได้ทั้งหมด แล้วคุณล่ะใช้ KPI ตัวไหนอยู่บ้าง

KPI วัดผลอะไรได้บ้าง

เทรน website SEO 2019 ที่ทำตามแล้ว จะประสบความสำเร็จ

นักธุรกิจออนไลน์ล้วนต้องการหาเทคนิคที่ทำให้มีผู้ติดตามและสืบค้นพบเว็บไซต์ตัวเองเป็นอันดับต้น ๆ ในหน้าต่างค้นหาของ search engine อย่าง Google เพื่อให้มีโอกาสเพิ่มยอดขาย ประสบความสำเร็จในธุรกิจที่ลงทุน ในบทความนี้เราได้รวบรวมเทรนด์การทำเว็บไซต์ SEO ในปี 2019 ที่กูรูแนะนำมาฝาก ใครทำก่อนก็มีสิทธิ์ประสบความสำเร็จก่อนด้วยเช่นกัน จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย

เทรน website SEO 2019 ที่ทำตามแล้ว ประสบความสำเร็จ

ความก้าวหน้าของ Voice Search ส่งผลต่อ keyword ในการค้นหา

การใช้ Voice Search หรือการหาสิ่งที่ต้องการด้วยคำสั่งเสียง เป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะเป็นวิธีลัดสั้นกว่าการพิมพ์แป้นกดอย่างมาก จะสังเกตเห็นว่าใน Google Search Google Assistant หรือ บริษัทเทคโนโลยีอย่าง Microsoft Apple จะมีช่องทางให้หาข้อมูลด้วยการใช้คำสั่งเสียง และมีการคาดคะเนว่าในอีก 1-2 ปีข้างหน้า ราว 50% ในการค้นหาจะมาจากการใช้ Voice search นี้

ดังนั้น เทรนด์การทำ Content SEO จึงต้องหันไปใช้ keyword ที่เป็น long-Tail keyword มากขึ้น ไม่ควรใช้ Short-Tail keyword อย่างในอดีต เพราะทุกการสืบค้นจะมาพร้อมกับบริบทหลาย ๆ อย่างที่ลูกค้าต้องการแตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น อดีตจะใช้ Short Tail keyword ว่า ร้านชาบู ดอกไม้ แต่ต่อไป ก็ควรปรับเป็น long Tail keyword อย่าง “ร้านชาบู กรุงเทพ อร่อย ราคาถูก” “ ร้าน ดอกไม้ ออนไลน์ รับปริญญา ราคาถูก” เป็นต้น

การใช้ AI ในการวิเคราะห์คุณภาพเว็บไซต์ SEO

ในปี 2019 ทุกท่านควรเพิ่มในส่วนของ snippet เช่น Meta Description ที่เป็นการสรุปโดยย่อของเนื้อหาทั้งหมดเช่นจาก 1,500 คำ สรุปกระชับให้สั้นเหลือแค่ 100 คำ ในส่วน Description เพื่อให้บทความในเว็บไซต์ถูกประมวลผลด้วยระบบ algorithm จาก search engine ง่ายและฉับไว อันทำให้ถูกจัดอันดับที่ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ห้ามมองข้ามเรื่องของปัญญาประดิษฐ์เด็ดขาด เพราะในปี 2019 search engine อันดับต้นของโลกก็ได้มีการ นำ AI มาเป็นส่วนหนึ่งในการวิเคราะห์คุณภาพของเว็บไซต์อย่างแม่นยำและในสัดส่วนที่สูงขึ้น ตัวอย่างเช่น rank brain ช่วยในการวิเคราะห์ และตีความหมายของบทความ ภาพประกอบ และสื่อมัลติมิเดีย ที่ปรากฏบนเว็บไซต์ว่าสอดคล้องกับ keyword ใด เมื่อมีผู้ใช้ Google สืบค้นก็จะนำเสนอผลที่ได้จากการประมวลผลออกไป ดังนั้นผู้ที่ทำเว็บไซต์ SEO ต้องติดตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยี AI อย่างใกล้ชิด

ในปี 2019 การพัฒนาเว็บไซต์ SEO จึงไม่ควรมองข้ามเทรนด์ที่เราได้กล่าวมา เราเชื่อว่าหากคุณได้ติดตามเทรนด์อย่างต่อเนื่อง ก้าวทันเทคโนโลยียุค 5g คู่กับการผลิตสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความสะดวกสบายของลูกค้า ก็ย่อมมีเปอร์เซ็นต์ประสบความสำเร็จได้สูง มีผู้ติดตามเป็นลูกค้าประจำมากขึ้นและแน่นอนว่าจะสัมพันธ์กับยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วย “คิดใหม่ทำใหม่ เริ่มต้นก่อนใคร ก็มีสิทธิ์รวยกว่าด้วย”

เทรน website SEO 2019 ที่ทำตามแล้ว