สรุปแนวทางพื้นฐานทำ SEO
สรุปแนวทางพื้นฐานทำ SEO

ต่อไปนี้คือสรุปหลักการ SEO ที่สำคัญ

เนื้อหาเป็นสิ่งสำคัญ: สร้างเนื้อหาที่ให้ข้อมูลและน่าสนใจซึ่งตอบคำถามค้นหาของผู้ใช้ กำหนดเป้าหมายคำหลักที่เกี่ยวข้องทั่วทั้งเนื้อหาของคุณ

เทคนิค SEO: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณสามารถรวบรวมข้อมูลได้และใช้งานง่ายสำหรับเครื่องมือค้นหา ซึ่งรวมถึงปัจจัยต่างๆ เช่น ความเร็วเว็บไซต์ ความเหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ และการใช้ข้อมูลที่มีโครงสร้างอย่างเหมาะสม

การวิจัยคำหลัก: ระบุคำหลักที่ผู้คนใช้ค้นหาหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของคุณ รวมคำหลักเหล่านี้อย่างมีกลยุทธ์ในเนื้อหาของคุณ

การสร้างลิงก์: รับลิงก์ย้อนกลับคุณภาพสูงจากเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียง ลิงก์ย้อนกลับส่งสัญญาณความน่าเชื่อถือให้กับเครื่องมือค้นหาและปรับปรุงอำนาจของเว็บไซต์ของคุณ

ประสบการณ์ผู้ใช้: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณใช้งานง่ายและมอบประสบการณ์เชิงบวกแก่ผู้เยี่ยมชม

โปรดจำไว้ว่า SEO เป็นกระบวนการต่อเนื่อง ด้วยการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เหล่านี้อย่างสม่ำเสมอและติดตามผลลัพธ์ของคุณ คุณจะค่อยๆ สามารถปรับปรุงอันดับเว็บไซต์ของคุณในผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหาได้

หน้าที่เฉพาะของผู้เชี่ยวชาญ SEO อาจรวมถึง

ผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO (Search Engine Optimization) มีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงการมองเห็นเว็บไซต์และการจัดอันดับในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา (SERP) หน้าที่เฉพาะของผู้เชี่ยวชาญ SEO อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับองค์กรและความซับซ้อนของกลยุทธ์ SEO แต่ความรับผิดชอบและงานทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับบทบาทนี้มีดังนี้

หน้าที่เฉพาะของผู้เชี่ยวชาญ SEO อาจรวมถึง

1.การวิจัยคำหลัก ดำเนินการวิจัยคำหลักอย่างละเอียดเพื่อระบุคำหลักและวลีที่เกี่ยวข้องซึ่งผู้มีโอกาสเป็นลูกค้ามีแนวโน้มที่จะใช้เมื่อค้นหาผลิตภัณฑ์ บริการ หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของเว็บไซต์

2.การเพิ่มประสิทธิภาพบนเพจ การเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาและโครงสร้างของเว็บไซต์เพื่อให้เกี่ยวข้องกับเครื่องมือค้นหามากขึ้น ซึ่งอาจรวมถึงการใช้คำสำคัญที่เกี่ยวข้องทั่วทั้งเว็บไซต์ การสร้างเนื้อหาคุณภาพสูง และปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ของเว็บไซต์

3.การเพิ่มประสิทธิภาพนอกเพจ การสร้างลิงก์ย้อนกลับไปยังเว็บไซต์จากเว็บไซต์คุณภาพสูงอื่นๆ ลิงก์ย้อนกลับเป็นสัญญาณไปยังเครื่องมือค้นหาว่าเว็บไซต์มีความน่าเชื่อถือและเชื่อถือได้

4.เทคนิค SEO ปรับการกำหนดค่าทางเทคนิคของเว็บไซต์ให้เหมาะสมเพื่อให้เครื่องมือค้นหารวบรวมข้อมูลและจัดทำดัชนีเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งอาจรวมถึงสิ่งต่างๆ เช่น การปรับปรุงความเร็วในการโหลดของเว็บไซต์ และการแก้ไขลิงก์ที่เสียหาย

5.การวิเคราะห์ SEO การติดตามและวิเคราะห์ประสิทธิภาพของเว็บไซต์ในผลการค้นหา ข้อมูลนี้สามารถใช้เพื่อระบุพื้นที่ที่สามารถปรับปรุงเว็บไซต์ได้ และเพื่อวัดความสำเร็จของแคมเปญ SEO

6.ผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO อาจทำงานร่วมกับแผนกอื่นๆ ภายในบริษัท เช่น การตลาดและการขาย เพื่อพัฒนาและใช้กลยุทธ์การตลาดดิจิทัลโดยรวม

SEO เป็นสาขาที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่เป็นส่วนสำคัญของธุรกิจออนไลน์ ผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ปรับปรุงการมองเห็นในผลการค้นหาและเข้าถึงผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าได้มากขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ต้องการการผสมผสานระหว่างความรู้ทางเทคนิค ทักษะการวิเคราะห์ ความคิดสร้างสรรค์ และความสามารถในการปรับตัวเพื่อให้เป็นเลิศในบทบาทของตน เป้าหมายสูงสุดของพวกเขาคือการเพิ่มปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ ปรับปรุงอันดับของเครื่องมือค้นหา และมีส่วนทำให้ปรากฏออนไลน์โดยรวมและความสำเร็จขององค์กร

วิธีการทำ seo ให้ติดหน้าแรกใน google

เคล็ดลับในการทำ SEO ให้ติดหน้าแรกของ Google มีดังนี้

1.ทำวิจัยคำหลักของคุณ ขั้นตอนแรกในการทำ SEO คือการค้นหาว่าคำหลักใดที่ผู้คนกำลังค้นหาซึ่งเกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือเว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถใช้เครื่องมือเช่น Google Keyword Planner เพื่อช่วยในเรื่องนี้

2.สร้างเนื้อหาคุณภาพสูง เมื่อคุณทราบคำหลักที่คุณต้องการกำหนดเป้าหมายแล้ว คุณต้องสร้างเนื้อหาที่เกี่ยวข้องและให้ข้อมูลกับคำหลักเหล่านั้น เนื้อหาของคุณควรเขียนอย่างดี ค้นคว้ามาอย่างดี และมีส่วนร่วม

3.เพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาของคุณสำหรับ SEO นอกจากการสร้างเนื้อหาคุณภาพสูงแล้ว คุณยังต้องเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับ SEO อีกด้วย ซึ่งหมายถึงการใช้คำหลักที่เหมาะสมในเนื้อหาของคุณ รวมถึงในชื่อ คำอธิบายเมตา และตลอดทั้งเนื้อหา

4.สร้างลิงก์ย้อนกลับ ลิงก์ย้อนกลับคือลิงก์จากเว็บไซต์อื่นมายังเว็บไซต์ของคุณ เป็นการส่งสัญญาณให้ Google ทราบว่าเว็บไซต์ของคุณน่าเชื่อถือและเชื่อถือได้ คุณสามารถสร้างลิงก์ย้อนกลับโดยการบล็อกของผู้เยี่ยมชม เข้าร่วมในโซเชียลมีเดีย และส่งเว็บไซต์ของคุณไปยังไดเร็กทอรี

5.ใช้โซเชียลมีเดีย โซเชียลมีเดียสามารถเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณและปรับปรุง SEO ของคุณ แบ่งปันเนื้อหาของคุณบนโซเชียลมีเดีย มีส่วนร่วมกับผู้ติดตามของคุณ และใช้แฮชแท็กที่เกี่ยวข้อง

6.ปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณให้ทันสมัยอยู่เสมอ Google ชอบเนื้อหาที่สดใหม่ ดังนั้นอย่าลืมปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณให้ทันสมัยอยู่เสมอด้วยข้อมูลใหม่ๆ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณนำหน้าคู่แข่งและปรับปรุงอันดับของคุณ

7.ใช้ Google Analytics Google Analytics เป็นเครื่องมือฟรีที่สามารถช่วยคุณติดตามการเข้าชมเว็บไซต์และประสิทธิภาพ SEO ข้อมูลนี้สามารถช่วยคุณระบุด้านที่คุณสามารถปรับปรุง SEO และอันดับที่สูงขึ้นใน Google

เขียนบทความ SEO อย่างไรให้มีคุณภาพ

ถามถึงเหตุผลของการพยายามทำ SEO ให้เว็บไซต์ติดอันดับหน้าแรกๆ ของ Google คำตอบคงหนีไม่พ้น เพื่อให้ลูกค้าเห็นเว็บไซต์ของคุณทำให้มีโอกาสขายสินค้าหรือบริการได้ก่อนคู่แข่ง แต่เห็นก่อนแล้วยังไง ถ้าไม่มีคำอธิบายว่าสินค้าหรือบริการของคุณดีอย่างไร คนค้นหาสินค้าคลิกเข้ามาดูแล้วไม่เห็นความน่าสนใจ แทนที่จะใช้บริการหรือเลือกซื้อสินค้า กลายเป็นเลือกที่จะคลิกออกจากเว็บทันทีแทนไปซะอย่างงั้น ถ้าเป็นแบบนั้นจะยิ่งส่งผลเสียต่อการจัดอันดับ ในทางกลับกันการเขียนบทความดีๆ เนื้อหามีประโยชน์ทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าน่าเชื่อถือซึ่งมีอิทธิพลให้ตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น

เมื่อคนค้นหาสินค้าหรือบริการพบเว็บไซต์ของคุณก่อน คลิกเข้ามาพบบทความดีๆ มีประโยชน์สอดคล้องกับความต้องการ ทำให้มีโอกาสปิดยอดขายได้ก่อนคู่แข่ง การปรับปรุงคุณภาพของบทความจึงเป็นส่วนหนึ่งของการทำ SEO ที่มีคุณภาพนั่นเอง

เขียนบทความอย่างไรให้มีคุณภาพและความน่าเชื่อถือ

คุณภาพของเนื้อหาส่งผลต่อความน่าเชื่อถือและการเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ จึงมีประโยชน์ต่อผลการจัดอันดับเสมอ เพราะชี้ให้เห็นว่าเจ้าของธุรกิจและเว็บไซต์นั้นมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ เนื้อหาที่อัปเดตให้ทันสมัยและถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้นเป็นสิ่งสำคัญให้เห็นความใส่ใจและความซื่อตรงต่อลูกค้า นอกจากเนื้อหาของบทความแล้ว

ความสามารถในการอ่านเป็นทักษะสำคัญ ควรศึกษาลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายและยึดระดับการอ่านที่เหมาะสม ความสนใจ และความต้องการของลูกค้าโดยเฉพาะเจาะจง ช่วยให้สามารถอ่านเข้าใจได้ง่ายขึ้น ทำให้เนื้อหาบทความดีๆ ให้ประโยชน์กับลูกค้ามากขึ้น

หลีกเลี่ยงบทความที่ยาวเกินไป เพิ่มความน่าสนใจด้วยรูปภาพโดยใช้ภาพประกอบที่น่าสนใจและสอดคล้องเนื้อหาทำให้อ่านเข้าใจได้ง่ายขึ้น

คีย์เวิร์ดเป็นปัจจัยสำคัญของบทความ มีคีย์เวิร์ดหลายประเภทที่ใช้ในบทความเดียว ทั้งคีย์เวิร์ดหลัก คีย์เวิร์ดรอง และคีย์เวิร์ดแบบวลีที่บอกคุณสมบัติแบบเฉพาะเจาะจง เพื่อให้ลูกค้าค้นหาเจอสิ่งที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด คีย์เวิร์ดเป็นตัวแปรที่เปลี่ยนแปลงได้ตามความนิยมของลูกค้า ควรอัปเดทและปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสมเพื่อช่วยให้ลูกค้าหาหน้าเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้น

ข้อดีของการเขียนบทความดีๆ ลงในเว็บไซต์

การเขียนบทความ SEO ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการ ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงธุรกิจของคุณได้มากขึ้น เนื้อหาบทความที่น่าสนใจและมีประโยชน์จะกระตุ้นให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์อ่านบทความทำให้อยู่ในเว็บเพจนั้นนานขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการจัดอันดับการค้นหา

เมื่อผู้อ่านแล้วรู้สึกพอใจ ผลตอบแทนที่ได้รับคือการเปลี่ยนจากผู้อ่านมาเป็นลูกค้าในภายหลัง นอกจากนั้นการขอความคิดเห็นท้ายบทความในมุมมองของผู้อ่านหรือผู้บริโภคยังทำให้เจ้าของธุรกิจรู้ถึงความต้องการโดยตรงของลูกค้า พร้อมกับการปรับปรุงบทความเพิ่มเนื้อหาที่สำคัญ เพิ่มความน่าสนใจและเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ท้ายที่สุดจะทำให้บทความบนเว็บไซต์มีผู้ชมปริมาณมากขึ้นและได้รับการจัดอันดับให้ติดหน้าแรกในผลลัพธ์การค้นหาของ Google เป็นวิธีการทำการตลาดดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพมากโดยไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายใดๆ

จำเป็นแค่ไหนที่ต้องใช้บทความ SEO กับข้อดีที่ใช่และประโยชน์ต่อธุรกิจคุณ

การทำ SEO มักจะมาควบคู่กับการใช้บทความ ซึ่งตัวบทความหรือเนื้อหาที่เป็น Content นี้ คือองค์ประกอบสำคัญของการทำธุรกิจบนตลาดออนไลน์มาก ๆ ด้วยเพราะทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นธุรกิจแบบไหน จะขายสินค้าบริการอะไร ก็จะต้องมีการใช้คำ ข้อความ และ Content เพื่อการนำเสนอข้อมูลของผลิตภัณฑ์ของธุรกิจไปยังกลุ่มลูกค้า ซึ่งนั่นหมายความว่าเราจำเป็นที่จะต้องใช้บทความในรูปแบบของ SEO เพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับธุรกิจของเราให้สามารถเอาชนะคู่แข่งให้ได้

บทความ SEO กับความจำเป็นต่อธุรกิจ

การทำตลาดที่ถูกต้อง ด้วยวิธีการหรือกลยุทธ์ในการทำการตลาดของธุรกิจออนไลน์ที่หลากหลายและไม่ได้ถูกกำหนดว่าจะมีวิธีไหนที่เป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่ละรูปแบบของการทำการตลาดก็จะมีข้อดี ข้อเด่น เฉพาะตัว ซึ่งตรงนี้เองที่เป็นความยืดหยุ่นในการทำตลาด แต่การเลือกใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เหล่านั้น มีสิ่งหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ และจำเป็นที่ธุรกิจจะต้องให้ความสำคัญ นั่นก็คือการเลือกกลยุทธ์โดยกำหนดจากหลักคิดสำคัญที่ว่าเรากำลังแข่งขันอยู่บนตลาดออนไลน์ โลกที่ถูกขับเคลื่อนด้วย Keyword และ SEO

สิ่งที่ใคร ๆ ก็ทำ ดู ๆ ไปแล้วการทำในสิ่งที่ทุกคนต่างก็ทำหรือทำเหมือน ๆ กันหมด อาจเป็นแนวคิดที่ไม่เท่เท่าไรนัก เพราะพื้นฐานสำคัญของการทำธุรกิจคือการสร้างความแตกต่าง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะการทำ SEO คือพื้นฐานสำคัญของการทำธุรกิจออนไลน์ ที่อยู่บนการค้นหาผ่าน Keyword เป็นจุดเชื่อมให้ลูกค้ามาเจอกับธุรกิจของเรา และแน่นอนว่าทุกธุรกิจออนไลน์ต่างก็ทำเรื่องนี้ จนกลายเป็น Standard ไปแล้วว่า SEO คือสิ่งที่ไม่ทำ ไม่ได้

ประโยชน์ที่ธุรกิจได้จากการทำ SEO

การคว้าลูกค้าให้มาอยู่ในมือ เพราะทุกธุรกิจนั้นจะต้องเจอกับการแข่งขันอยู่ตลอดเวลา นั่นหมายความว่า หากใครสามารถคว้าลูกค้ามาได้ก่อน ก็มีโอกาสที่จะเป็นผู้ชนะในศึกนี้ การทำ SEO จะช่วยให้ธุรกิจสามารถได้ตัวลูกค้ามาก่อนคู่แข่ง ผ่านการทำตัวเองให้เป็นหมายเลขหนึ่งของผลการค้นหาผ่าน Search Engine ยอดนิยมนั่นเอง

ต้นทุนและความคุ้มค่า ด้วยเหตุผลที่ว่าต้นทุนก็คือตัวแปรสำคัญที่จะส่งผลต่อกำไรของธุรกิจ และการทำการตลาดด้วย SEO คือการใช้ต้นทุนที่คุ้มค่าที่สุด ด้วยเพราะเป็นการทำการตลาดที่สามารถนำไปใช้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะช่วงเวลาไหนที่ลูกค้ากำลังมองหาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตัวเองก็จะสามารถค้นเจอธุรกิจของเราได้เสมอ ผ่าน Content SEO ที่ธุรกิจนำเสนอ

เพราะการเลือกใช้บทความที่มีโครงสร้างตาม SEO ในการเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยในการสื่อสารและการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น และสามารถแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดมาเป็นของตัวเองได้ ผ่านอาวุธที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในวงการธุรกิจออนไลน์

นักเขียน SEO ที่ดี ต้องรู้เรื่องอะไรบ้าง 2020

การทำ SEO หรือ search engine optimization เป็นเทคนิคการตลาดออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมาก ในปี 2019 เพราะทุกธุรกิจต้องการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายทางมือถือและคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะส่งเสริมการขายได้มากที่สุด ทำให้อาชีพนักเขียน SEO ได้รับความนิยมตามมาด้วย และยังคงต่อเนื่องสู่ปี 2020

นักเขียน SEO ที่ดีในปี 2020 ต้องรู้เรื่องอะไรบ้าง

เลือก keyword ที่ดี

คีย์เวิร์ดที่เหมาะกับการทำบทความ SEO ต้องเลือกจาก Google search Console ซึ่งจะมีการรวบรวมสถิติเอาไว้ว่า keyword ตัวใดมีศักยภาพในการแข่งขันสูง โดยมักเป็นคำที่มีความยาวและมีความหมายเฉพาะเจาะจง เช่น ยี่ห้อร่วมกับคุณสมบัติพิเศษ เช่น ราคาถูก ใช้ทนทาน มีประกัน ฯลฯ คำเหล่านี้ จะเหมาะกับการเขียนบทความสำหรับส่งเสริมการขายอุปกรณ์เทคโนโลยี สินค้าไอทีต่าง ๆ เป็นต้น ถ้าเลือก keyword ดี จะทำให้บทความนั้นมีโอกาสได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากขึ้น

ข้อมูลสินค้าทันสมัย

การศึกษาข้อมูลใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ keyword สินค้านั้น ๆ นับว่าเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าคุณกำลังจะเป็นนักเขียนบทความ SEO เกี่ยวกับมือถือหรือรถยนต์ ต้องศึกษาเกี่ยวกับรายละเอียดพื้นฐาน เช่น มือถือมีระบบปฏิบัติการอย่างไร มีระบบหน่วยความจำ กล้อง ที่น่าสนใจอย่างไรบ้าง ฯลฯ หากเป็นรถยนต์ ก็ต้องเข้าใจเรื่องของระบบเครื่อง รถยนต์ระบบไฮบริด ระบบไฟฟ้า ระบบ AI ที่ใช้ในการควบคุมแทนคนขับ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นต้น จะเห็นได้ว่า การเป็นนักเขียนที่มีคุณภาพสูง จะต้องมีการศึกษารายละเอียดใหม่ ๆ ตลอดเวลา เพื่อเขียนบทความ SEO ที่น่าสนใจ

การใช้โปรแกรม wordpress และ plugin ต่าง ๆ

โปรแกรม wordpress เรียกว่าเป็นตัวช่วยพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการทำบทความ SEO ซึ่งสามารถช่วยผู้เขียนในการปรับแต่งส่วนประกอบต่าง ๆ ที่สำคัญ เช่น การตั้งชื่อหัวข้อ การใส่ URL address การ การคิดบทนำหรือ meta description นอกจากนี้ ยังมี plugin ที่สำคัญ อย่าง Yoast SEO ที่สามารถดาวน์โหลดใช้คู่กันได้ เพื่อช่วยในการวิเคราะห์คุณภาพบทความ SEO ได้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

การใช้รูปภาพประกอบบทความ

รูปภาพที่ใช้ในการประกอบบทความ SEO ควรจะเป็นภาพที่ทำขึ้นมาใหม่ ไม่ว่าจะเป็นภาพที่ถ่ายด้วยกล้องหรือโทรศัพท์มือถือที่ต้องคมชัดสวยงาม หรือจะเป็นการเขียนด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ก็จะทำให้มีความโดดเด่นและตรงกับเนื้อหาบทความมากขึ้นด้วย แต่หากไม่สามารถทำรูปภาพด้วยตัวเอง ก็สามารถเลือกรูปภาพที่อนุญาตให้ใช้ฟรี ไม่มีปัญหาลิขสิทธิ์ได้จากเว็บไซต์ภาพฟรีต่าง ๆ แต่ก็ควรทราบด้วยว่า การทำรูปประกอบบทความเอง จะส่งผลดีต่ออันดับ SEO มากกว่าการใช้รูปฟรีแน่นอน

การเป็นนักเขียน SEO ที่มีคุณภาพในปี 2020 นี้ จำเป็นจะต้องศึกษารายละเอียดต่าง ๆ เพื่อผลิตผลงานได้สอดคล้องกับการตลาดออนไลน์ ซึ่งสามารถที่จะลงเรียนเพิ่มเติม หรืออ่านจากหนังสือพร้อมกับการฝึกฝนบ่อย ๆ เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ ฝึกฝนให้เป็นนักเขียนที่เก่งและได้รับงานดี ๆ มากขึ้น

นักเขียน SEO ที่ดีในปี 2020 ต้องรู้เรื่องอะไรบ้าง

บทความ How to

หลายคนเคยได้ยินเรื่องการทำ SEO กันมาบ้าง โดยมากพูดถึงกันแต่เรื่องทำอย่างไรให้เว็บอยู่หน้าแรกๆ ของการจัดอันดับค้นหาบนเสิร์จเอนจิน ความจริงนั่นเป็นเรื่องสำคัญเพียงด้านเดียว หัวใจหลักของการเข้าไปอยู่ในหน้าแรกเพื่อทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น ดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาทำความรู้จักผลิตภัณฑ์ ซื้อแล้วเกิดความพอใจนำไปแชร์กันต่อ เกิดความภักดีกลายเป็นลูกค้าที่ซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ยังมีวัตถุประสงค์อีกมากมายทำให้การทำ SEO ได้รับความสนใจอย่างล้มหลาม การเขียนบทความที่มีเนื้อหาน่าอ่านเป็นเคล็ดลับอย่างหนึ่งของการทำให้ลูกค้าประทับใจ ยิ่งเข้ามาติดตามอ่านมากเท่าไรก็ยิ่งไต่อันดับสูงขึ้นเท่านั้น เพิ่มศักยภาพการแข่งขันกับคู่แข่งแบรนด์อื่นอย่างเป็นรูปธรรม

วิธีการเขียนบทความแนว How-to คือการนำเสนอข้อมูลแนะนำสินค้าหรือบริการ ทั้งการอธิบายรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ วิธีการใช้งาน ตลอดจนเกร็ดความรู้น่าสนใจอื่นๆ ช่วยให้ลูกค้าใช้ประโยชน์ผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพดี มีประสิทธิภาพสูง ช่วยแก้ปัญหาและตอบโจทย์ความต้องการได้ตรงใจที่สุด การเขียนลักษณะนี้สำหรับนักการตลาดและนักขายมือใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย อาจต้องอาศัยบริษัทรับเขียนบทความและบริษัทรับโปรโมทคอนเทนต์ช่วยเรียบเรียงให้ตามข้อมูลเชิงลึกของสินค้า บวกกับทักษะการเขียนอย่างมืออาชีพที่มีประสบการณ์จะทำให้ลูกค้ากล่าวเป็นเสียงเดียวว่าอ่านแล้วใช่ ใช้แล้วชอบ ช่วยกันกระหน่ำแชร์กันทางอินเทอร์เน็ตให้คนรู้จักได้นำไปใช้ประโยชน์ด้วย ส่งเสริมยอดขายให้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

How to

คอนเทนต์ในลักษณะ How-to ควรแบ่งออกเป็นหัวข้อย่อย เช่น

-รายละเอียดของสินค้าหรือบริการ
-สรรพคุณของผลิตภัณฑ์ โดยอ้างอิงโฆษณาในสื่อกระแสหลักที่โปรโมทสินค้าให้ด้วย
-เขียนถึงกลุ่มลูกค้าที่เหมาะกับสินค้าหรือบริการ ว่ามีประโยชน์อย่างไร ช่วยแก้ปัญหาให้ได้อย่างไร
-ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ เช่น มีงานวิจัยที่รับรองคุณภาพ
-ความแตกต่างกับแบรนด์อื่น เพื่อให้ลูกค้าเปรียบเทียบข้อดีและเลือกผลิตภัณฑ์ของเราในที่สุด
-กรณีศึกษาเกี่ยวกับสินค้า รีวิวจากประสบการณ์ของผู้ใช้จริงนำมาบอกต่อ

เพียงคำอธิบายทั้งหมดข้างต้นก็ครอบคลุมจุดเด่นของผลิตภัณฑที่จะช่วยให้ปิดการขายกับลูกค้าได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องเสนอขายแบบยัดเยียดตรงไปตรงมาซึ่งมักจะทำให้ลูกค้าอึดอัด แต่เขียนบทความในลักษณะโน้มน้าวและเว้นระยะให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกด้วยตัวเอง ก่อนจะอัดฉีดโปรโมชั่นดีๆ เช่น รีบซื้อตอนนี้ แถมผลิตภัณฑ์ขนาดทดลอง หรือสินค้าที่ใช้ร่วมกันอีก 1 ชิ้น

อีกขั้นตอนที่ขาดไม่ได้คือการโปรโมทคอนเทนต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ซึ่งเป็นการทำตลาดออนไลน์ยุคใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูง ปรับข้อเขียนให้แสดงผลบนหน้าจออุปกรณ์มือถือทำให้อ่านง่าย โหลดเร็ว มีช่องทางให้กดไลค์ กดแชร์ จะเผยแพร่ข้อมูลของผลิตภัณฑ์และแบรนด์เข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายอย่างรวดเร็ว คงไม่น่าแปลกใจถ้าการทำ SEO ด้วยบทความ How to จะทำให้ประสบการณ์การค้นหาผลิตภัณฑ์ในโลกออนไลน์ปรากฏชื่อขึ้นในหน้าแรกๆ ของกูเกิล เพราะเป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง ยิ่งเพิ่มโอกาสการขายได้มากขึ้นไปอีก